ผบช.ภ.7เยี่ยมดาบตำรวจที่บาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่จับยาบ้า พร้อมเผยคดีช้างในพื้นที่แกงกระจาน ยันถ้าคนมีสีเอี่ยวคดียิงช้างป่าตายจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
พล.ต.ท.หาญพล นิตยฺวิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางมาเยี่ยมดูอาการ ด.ต. กิตติ ปู่หงษ์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปรามสภ.สวนผึ้ง ที่ถูกพลทหาร ศรุต อุ่นหมี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.1 ต.ท่าเคยอ.สวนผึ้ง เป็นทหารเกณฑ์สังกัดค่ายบุรฉัตรจ.ราชบุรี ขับรถชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะเข้าทำการล่อซื้อยาบ้าเมื่อวันที่ 7 มี.ค.56ที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลราชบุรี เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ พร้อมทั้งออกมาให้สัมภาษณ์ในกรณีช้างป่าถูกอาวุธปืนยิงตาย ว่าได้ตั้งคณะทำงานชุดใหญ่ขึ้นทำงาน ร่วมกับสืบภาคและสืบจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี เป็นเขตต่อเนื่องในการทำงาน ความคืบหน้ายังไม่มีอะไรมากนัก
โดยได้นำกลุ่มเก่าคือกลุ่มนายพรานที่มีอาชีพนี้อยู่ เมื่อปีที่แล้วได้มีการจับกุมไปก่อนหน้านี้ บางส่วนได้รับโทษไป บางส่วนก็ยังคงมีหมายจับอยู่ และยังไม่แน่ใจว่าจะใช่กลุ่มนี้หรือไม ตอนนี้อยู่ระหว่างการหาข่าวมีเบาะแสยังไม่ชัดเจน ส่วนเส้นทางอาจจะไปโผล่ที่สวนผึ้งราชบุรีก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด โดยเคยเป็นเส้นทางซึ่งก่อนหน้านี้หัวหน้าอุทยานเคยพูดไว้ แต่ขณะนี้ยังไม่พบเบาะแสที่ช้างกลุ่มนี้เดินแล้วไปโผล่ทางเส้นทางนี้ ตอนนี้กำลังสงสัยว่าเหตุใดจึงมายิงช้างตัวเมีย ถ้ายิงช้างตัวผู้เพื่อจะเอางา แต่เป็นการฆ่าช้างตัวเมีย มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร จึงสันนิษฐานว่าอาจจะมีลูกช้างอยู่ด้วย จึงมายิงเพื่อเอาลูกช้างไป แต่ขณะนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ เพียงแต่เป็นข้อสันนิษฐานซึ่งยังละเลยไม่ได้
นอกจากนี้ก็จะได้ประสานกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพื่อขอข้อมูลที่หัวหน้าอุทยานฯกล่าวว่าคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และไม่ว่าจะเป็นใครหรือหากเป็นตำรวจเกี่ยวข้องก็ยิ่งดีจะดำเนินการได้ง่าย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลอะไรมากนัก จากการสืบสวนขณะนี้ยังไม่พบคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งคดีปีที่แล้วได้จับกุมผู้ต้องหาเกือบหมดยกเว้น นายสมพร จอกายที่ยังหลบหนีอยู่ และจากข่าวที่บอกว่ามีลูกช้างด้วยนั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานถึงมูลเหตุจูงใจว่าทำไมคนร้ายถึงมายิงช้างตัวเมียจึงต้องขอพิสูจน์อย่างละเอียดทางวิทยาศาสตร์ถึงดีเอ็นเอแม่ช้างที่ตายว่าจะมีลูกช้างหรือไม่
ส่วนหัวกระสุนได้เก็บไว้เป็นหลักฐานยังตอบไม่ได้ว่าเป็นหัวกระสุนขนาดไหน โดยต้องส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ สำหรับการยิงครั้งนี้ไม่ใช่อาวุธสงครามเพราะมีรูเล็กกว่า ทั้งนี้ได้สั่งการให้สำรวจปางช้างทั่วประเทศว่ามีลูกช้างที่เกิดกับแม่ช้างผิดสังเกตหรือไม่ ถ้าสงสัยช้างตัวไหนก็จะต้องส่งตรวจดีเอ็นเอหาที่มาที่ไปให้ชัดเจนด้วย
**********************************************
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
12/03/56
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น