รถทัวร์เบรกแตกชนสนั่น 4 คันซ้อน บนถนนเพชรเกษม ขาออกเมืองราชบุรี หนึ่งในผู้บาดเจ็บเป็นรองผู้กำกับ สภ.เมืองราชบุรี อาการสาหัส
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนบนถนน เพชรเกษม ขาออกเมืองราชบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธรณภัยและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประชานุกูลราชบุรี สถานที่เกิดเหตุพบว่ารถยนต์ประสบอุบัติเหตุทั้งหมด 4 คัน ประกอบด้วยรถกระบะอีซูซุดีแม็ค สีเทา หมายเลขทะเบียน วษ 537 กทม. รถ 6 ล้อฮีโน่สีขาว ทะเบียน 70-2137 เชียงใหม่ ,รถทัวร์สีขาวคาดเขียวแดง ของบริษัทวงษ์จันทร์ทัวร์ รวมทั้งรถยนต์เก๋งโตโยต้า โคโลน่า สีเขียว หมายเลขทะเบียน วน-2718 กทม มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะช่วยกันนำร่างของผู้บาดที่ติดอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าวออกมาได้และรีบนำส่งโรงพยาบาลราชบุรี
โดยภายหลังทราบต่อมาว่าเป็นรองผู้กำกับ สภ.เมืองราชบุรี ทราบชื่อคือ พ.ต.ท.ยงยุทธ เกิดเรือง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองราชบุรีได้รับบาดเจ็บ จากการสอบถามนายอนุชา วงค์จันทร์ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถทัวร์คันก่อเหตุ เล่าว่า ในขณะที่ตนเองได้ขับรถมาจากจังหวัดสุพรรณบุรีและกำลังมุ่งหน้าไปจังหวัดประจวบขีรีขันธ์โดยมีคณะครูจากโรงเรียนในจังหวัดสุพรรณนั่งมาเต็มคันรถเพื่อที่จะนำไปดูงาน จนมาถึงบริเวณแยกไฟแดงเส้นสายถนนเพรชเกษม แยกห้วยไผ่ เเละรถจอดติดไฟเเดงอยู่ข้างหน้า จังหวะเป็นไฟแดงตนจึงเยียบเบรก แต่เกิดเบรกแตก ก่อนได้พุ่งชนท้ายรถเก๋งอย่างจัง และทำให้เเก๊ส LPG จากรถรั่วไหลออกมา ส่วนเเรงกระเเทกทำให้รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ที่จอดอยู่ด้านหน้าถูกอัดก๊อบปี้เข้าไปใต้หน้ารถ
อีกทั้งผู้โดยสารที่อยู่บนรถทัวร์ต่างก็หวีดร้องด้วยความตกใจเเละพยายามวิ่งออกจากรถทัวร์คันดังกล่าว โดยบริเวณดังกล่าวการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรเพื่อเคลียร์เส้นทางดังกล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธรณภัยได้นำน้ำมาฉีดเพื่อป้องกันมาฉีดเลี้ยงแก๊สที่รั่วไหล แต่ในขณะนั้นได้มีประกายไฟพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันฉีดน้ำ สกัดเพลิงใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดก็ไม่พบร่องรอยในการเบรกของรถทัวร์คันดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากเบรกแตก จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมรถเอาไว้ได้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบถามรายละเอียดอีกครั้งเพื่อจะดำเนินคดีต่อไป
****************************************
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
27/03/56
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น