ชาวสวนผึ้งบุกศาลากลางเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายในเรื่องที่ดินทำกิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ส.ค.56 ได้มีชาวบ้านกว่า 500 คน เดินทางมาที่ศาลากลาง จ.ราชบุรี
พร้อมกับถือป้ายข้อความเรียกร้องให้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ
จ.ราชบุรี(กบร.จ.ราชบุรี) ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิทำกินในที่ดินในเขตอ.สวนผึ้ง
จ.ราชบุรี และเรียกร้องให้แก้ไขพระราชกฤษฎีกา พ.ศ.2481 ที่กำหนดเขตหวงห้ามที่ดินในท้องที่ จ.กาญจนบุรี และระบุแนบท้ายครอบคลุมมาถึงพื้นที่ในเขตอ.สวนผึ้ง ทั้งที่ชาวบ้านอ้างว่าอยู่มาก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกาออกมา
โดยนายสกล คุณาพิทักษ์ กำนันตำบลสวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในฐานะแกนนำประชาชนที่มาเรียกร้องเรื่องขอให้พิสูจน์สิทธิที่ทำกิน
ก็กล่าวว่า ที่ตนพร้อมชาวบ้านเดินทางมาเรียกร้องในครั้งนี้ก็ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินทำกิน
ที่ชาวบ้านได้รับสืบทอดสิทธิมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย ก่อนที่รัฐจะประกาศกำหนดให้เป็นที่ดินของรัฐ และขอให้ทางหน่วยราชการได้นำเอกสารหลักฐานความเป็นที่ดินของรัฐมาแสดงเพื่อให้เกิดความชอบธรรม
เพราะขณะนี้ชาวบ้านเกิดความไม่มั่นคงและแน่ใจว่าจะสามารถอยู่และทำมาหากินในที่ดินของตนเองได้ต่อไปหรือไม่
เพราะมีหน่วยงานเข้าไปแจ้งว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นที่ดินราชพัสดุจะต้องไปทำการขอเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ ถ้าไม่ไปทำการขอเช่าทางกรมธนารักษ์ก็จะให้ผู้อื่นที่มาเช่าได้เข้าไปทำกินแทน
ทำให้ชาวบ้านเกิดกังวลว่าจะสูญเสียที่ดินที่เคยทำกินมาอยู่เดิมไป
และจะไม่มีที่ดินทำกิน นอกจากนี้ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาถอนการหวงห้ามที่ราชพัสดุที่ไว้ใช้ในราชการทหารในพื้นที่อ.สวนผึ้ง
ด้วยการทำการรังวัดกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐให้ชัดเจน
และยินยอมให้ราษฎรทำกินตามขอบเขตแห่งสิทธิและกฎหมาย
และห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการข่มขู่ บังคับขับไล่
หรือกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนสิทธิการครอบครองและขอบเขตแห่งสิทธิของราษฎรซึ่งมีมากกว่า 1,700 รายที่ได้รับความเดือดร้อน
ต่อมานายปิติธรรม ฐิติมนตรี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี
ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนของชาวอ.สวนผึ้ง พร้อมกับจะนำเรื่องที่ชาวบ้านมาร้องเรียนเข้าในที่ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ
จ.ราชบุรี เพื่อดำเนินการต่อไป รวมทั้งจะให้ทางอำเภอสวนผึ้งได้ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนเรื่องที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่เดือดร้อนเพื่อจะได้ไม่ต้องเดินทางมายื่นเรื่องที่ศาลากลางจังหวัดราชบุรี ด้วย
*****************************************
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
22/08/56
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น