นายวิเชษฐ์
เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พร้อมด้วยนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ผู้นำชุมชน
ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน และนักเรียน ได้ร่วมกัน "ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์” ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี จังหวัดราชบุรี ณ
ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา มหาราชินี โดยปล่อยสัตว์ป่าทั้งสิ้นจำนวน 4 ชนิด รวม 82 ตัว ได้แก่ละมั่ง จำนวน3 ตัว เนื้อทราย จำนวน 2 ตัว กวางป่า จำนวน 9 ตัว และไก่หลังเทา จำนวน 68 ตัว
ซึ่งเป็นสัตว์ที่ได้จาการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้างและสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน
ภายในงานยังมีการกล่าวคำปฏิญาณตน ในการหยุดกิน
หยุดค้าสัตว์ป่าและมอบต้นผึ้งต้นไม้สัญลักษณ์ประจำอำเภอสวนผึ้ง แก่ผู้นำชุมชน
ผู้นำท้องถิ่น ตำรวจ ทหารในพื้นที่เพื่อนำไปปลูกในหน่วยงาน พร้อมกับมอบรถจักรยานให้กับนักเรียนในโรงเรียนตามแนวชายแดนเพื่อไว้สำหรับขี่มาโรงเรียนอีกจำนวน 8 คันด้วย
และภายหลังปล่อยสัตว์คืนสู่ธรรมชาติแล้ว นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า วันนี้ได้มาเปิดงานโครงการส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวันโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 81 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม
ที่จะมาถึงนี้
ส่วนนโยบายของผมคือ
ต้องการรักษาและฟื้นฟูป่า จากนี้ไปจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
กับเรื่องการตัดไม้ทำลายป่า
และส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่า ให้ประชาชนอยู่กับป่า ทุกวันนี้ที่มีอยู่จะต้องรักษาไว้ไม่ให้ถูกทำลายเพิ่มขึ้น
ส่วนการฟื้นฟูคือ ป่าใดที่ถูกทำลายก็จะฟื้นฟู อย่างกรณีปลูกป่าทดแทน ตอนนี้ได้มีโครงการ 800 ล้านกล้า อนาคตจะส่งเสริมให้มีการปลูกไม้พะยูงมากขึ้น เพราะว่าวันนี้ได้มีการลักลอบตัดไม้พะยูงกันเป็นจำนวนมาก
จากนี้ไปจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดแล้วจะสนับสนุนงบประมาณให้เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่ามีอุปกรณ์ให้ครบถ้วน
ทั้งปืนที่ทันสมัย เสื้อเกราะ
อีกส่วนจะมีกองทุนในการที่จะสนับสนุนผู้พิทักษ์ป่าในยามบาดเจ็บหรือ ทุพลภาพ หรือ
เสียชีวิต จะดูแล ทั้งหมด แม้ว่าที่ผ่านมาจะยังไม่มี
แต่วันนี้จะเริ่มตั้งมูลนิธิที่จะดูแลผู้พิทักษ์ป่า และต้องมาดูว่าสิ่งใดที่เป็นจุดอ่อนต้องเร่งแก้ไข
ผมได้สั่งให้อธิบดีทุกกรมที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันบูรณการงานในกระทรวง แต่นี้ต่อไปในกระทรวงจะมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น
เพราะว่ากำลังจะตั้งวอรูมของกระทรวงขึ้นมา โดยจะนำข้อมูลทุกกรมมาอยู่ที่กระทรวง
สามารถที่จะติดต่อสื่อสารกันได้ง่าย จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ ส่วนไหนเป็นจุดอ่อนจะนำมาแก้ไข ส่วนไหนที่ดีจะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น ต้องใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด มีความพร้อม ป้องกันรักษาและฟื้นฟู และจะดูแลสิ่งที่ขาดหายไปให้ดีขึ้น
*********************************************
ภาพ/ข่าว
ภัทรพงศ์ คำเปรม
06/08/56
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น