วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กรมอุทยานฯแห่งชาติ ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์ ถวายเป็นพระราชกุศล







กรมอุทยานฯแห่งชาติ   ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์ ถวายเป็นพระราชกุศล



นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน และนักเรียน   ได้ร่วมกัน "ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์” ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี จังหวัดราชบุรี ณ ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา มหาราชินี โดยปล่อยสัตว์ป่าทั้งสิ้นจำนวน 4 ชนิด รวม 82 ตัว ได้แก่ละมั่ง จำนวนตัว เนื้อทราย จำนวน 2 ตัว กวางป่า จำนวน 9 ตัว และไก่หลังเทา จำนวน 68 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ที่ได้จาการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้างและสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน ภายในงานยังมีการกล่าวคำปฏิญาณตน ในการหยุดกิน หยุดค้าสัตว์ป่าและมอบต้นผึ้งต้นไม้สัญลักษณ์ประจำอำเภอสวนผึ้ง แก่ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ตำรวจ ทหารในพื้นที่เพื่อนำไปปลูกในหน่วยงาน  พร้อมกับมอบรถจักรยานให้กับนักเรียนในโรงเรียนตามแนวชายแดนเพื่อไว้สำหรับขี่มาโรงเรียนอีกจำนวน 8 คันด้วย
        
และภายหลังปล่อยสัตว์คืนสู่ธรรมชาติแล้ว นายวิเชษฐ์  เกษมทองศรี  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)  กล่าวว่า วันนี้ได้มาเปิดงานโครงการส่งสัตว์ป่าคืนวนา  เพื่อป่าสมบูรณ์เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวันโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ  81  พรรษา ในวันที่  12 สิงหาคม ที่จะมาถึงนี้     

ส่วนนโยบายของผมคือ ต้องการรักษาและฟื้นฟูป่า  จากนี้ไปจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด กับเรื่องการตัดไม้ทำลายป่า และส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่า ให้ประชาชนอยู่กับป่า  ทุกวันนี้ที่มีอยู่จะต้องรักษาไว้ไม่ให้ถูกทำลายเพิ่มขึ้น ส่วนการฟื้นฟูคือ  ป่าใดที่ถูกทำลายก็จะฟื้นฟู  อย่างกรณีปลูกป่าทดแทน  ตอนนี้ได้มีโครงการ  800 ล้านกล้า อนาคตจะส่งเสริมให้มีการปลูกไม้พะยูงมากขึ้น เพราะว่าวันนี้ได้มีการลักลอบตัดไม้พะยูงกันเป็นจำนวนมาก  

จากนี้ไปจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดแล้วจะสนับสนุนงบประมาณให้เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่ามีอุปกรณ์ให้ครบถ้วน ทั้งปืนที่ทันสมัย เสื้อเกราะ อีกส่วนจะมีกองทุนในการที่จะสนับสนุนผู้พิทักษ์ป่าในยามบาดเจ็บหรือ ทุพลภาพ หรือ เสียชีวิต จะดูแล  ทั้งหมด  แม้ว่าที่ผ่านมาจะยังไม่มี แต่วันนี้จะเริ่มตั้งมูลนิธิที่จะดูแลผู้พิทักษ์ป่า  และต้องมาดูว่าสิ่งใดที่เป็นจุดอ่อนต้องเร่งแก้ไข ผมได้สั่งให้อธิบดีทุกกรมที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันบูรณการงานในกระทรวง  แต่นี้ต่อไปในกระทรวงจะมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เพราะว่ากำลังจะตั้งวอรูมของกระทรวงขึ้นมา  โดยจะนำข้อมูลทุกกรมมาอยู่ที่กระทรวง สามารถที่จะติดต่อสื่อสารกันได้ง่าย  จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์   ส่วนไหนเป็นจุดอ่อนจะนำมาแก้ไข ส่วนไหนที่ดีจะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น  ต้องใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด มีความพร้อม ป้องกันรักษาและฟื้นฟู และจะดูแลสิ่งที่ขาดหายไปให้ดีขึ้น



*********************************************
ภาพ/ข่าว  ภัทรพงศ์  คำเปรม  
06/08/56

ไม่มีความคิดเห็น: