วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

อบต.เกาะพลับพล าจับมือตำรวจราชบุรี ลงแขกดำนาสืบสานประเพณีดั้งเดิม







อบต.เกาะพลับพลาจับมือตำรวจลงแขกดำนาสืบสานประเพณีดั้งเดิม



เวลา  10.00 น. ของวันที่  4 กันยายน  2556  นายณัฐวุฒิ  เพชรพรมศร  นายอำเภอเมือง  จังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพชัย  เสมอจิตต์  สารวัตรฝ่ายป้องกันและปรามปราม สภ.เมืองราชบุรี นายวีระ  งามเปราะ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพลับพลา และนักเรียนจากโรงเรียนวัดห้วยตะแคง  โรงเรียนวัดเกาะลอย  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดกิจกรรมการประเพณีทำนาแบบดั้งเดิม บริเวณทุ่งนา หมู่ที่  12 บ้านห้วยจำปา ตำบลเกาะพลับพลา  อำเภอเมือง บนเนื้อที่ประมาณ  6 ไร่ เพื่อสืบสานประเพณีและเสริมสร้างความสามัคคีในชุมชน

นายวีระ  งามเปราะ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพลับพลา  กล่าวว่า หลังได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่  3 ได้ดำเนินการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไปแล้วหลายโครงการ ในพื้นที่ 8หมู่บ้าน มีประชากรประมาณ  12,000 คน  ที่ตำบลมีศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีชาวบ้าน มีโรงสีข้าวชุมชน เพื่อรองรับข้าวจากชุมชนซึ่งมีเกษตรกรทำนาประมาณ  80 เปอร์เซ็นต์ มีอาชีพทำนา การจัดกิจกรรมวันนี้เป็นการย้อนวิธีการดำนา  ไถนาแต่โบราณ  แม้ว่าปัจจุบันแทบไม่มีหลงเหลืออยู่ วันนี้จึงได้นำการสาธิตการทำนาในสมัยเก่าที่ได้ใช้วิธีดำนาว่าทำอย่างไร  มีการใช้วัวจำนวน  9 คู่ไถนา   การลงแขกดำนาร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ในสมัยก่อนเวลาลงแขกดำนาหรือเกี่ยวข้าวชาวบ้านจะไปช่วยกันโดยต้องจ่ายค่าแรงผลัดเปลี่ยนช่วยเหลือกันด้วยความมีน้ำใจ เรียกว่าเอาแรงกันไม่ต้องจ่ายเงินจนพื้นที่นาเสร็จหมดทุกคน  

พ.ต.ท.นพชัย เสมอจิตต์  สารวัตรฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองราชบุรี หัวหน้าชุดมวลชนสัมพันธ์สภ. กล่าวว่า ได้รับมอบนโยบายจาก พ.ต.อ.อนิน  ศรีสรรพางค์  ผู้กำกับ สภ.เมือง วันนี้ได้จัดมีกิจกรรมของชุมชนเข้มแข็งย้อนอดีตการทำนาด้วยการใช้วัวไถนาดำนาแบบสมัยโบราณ โดยร่วมกับสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี  อบต.เกาะพลับพลา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และโรงเรียนวัดห้วยตะแคงพรประชานุกูล และโรงเรียนวัดเกาะลอย ร่วมกันจัดประเพณีทำนาแบบดั้งเดิมขึ้นย้อนในสมัยเก่ารุ่นปู่ ย่า ตา ยายที่เคยทำมา  เพื่อให้คนในชุมชนเข้มแข็งมีความสุข ตอนเที่ยงพักกินข้าว พอบ่ายก็เริ่มลงแขกช่วยกันอีกจนเสร็จ มีกิจกรรมตอนเย็นด้วยความสนุกสนาน 

เป็นโครงการนำร่องแห่งแรกของสถานีตำรวจที่ได้มีแนวคิดทำเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีไม่เอาเปรียบเสียสละมีการร่วมมือร่วมแรงใจทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งสิ่งสำคัญคือ ลดปัญหาอาชญากรรม ทำให้ชุมชนอบอุ่น ปัญหาต่างๆจจะลดน้อยลง  นอกจากนี้เด็กๆและเยาวชนซึ่งต่อไปจะต้องเป็นอนาคตของชาติก็จะได้รู้จักประเพณีเก่าแก่ที่ควรสืบสานและอนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้อย่างมีคุณค่า




********************************************
ภาพ/ข่าว  ภัทรพงศ์  คำเปรม
06/09/56

ไม่มีความคิดเห็น: