วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ป่าไม้แจ้งจับนายทุนหลังชาวบ้านร้องเรียนว่าป่าชุมชนถูกนายทุนนำไปออกเอกสารสิทธิ์







ป่าไม้แจ้งจับนายทุนหลังชาวบ้านร้องเรียนว่าป่าชุมชนถูกนายทุนนำไปออกเอกสารสิทธิ์

 

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค.55 ที่ผ่านมา พล.ต.สมบัติ  ศูนย์กลาง  รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ราชบุรี  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนจัดการที่ดิน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 10 ( ราชบุรี ) เจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดิน อ.สวนผึ้ง  เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.สวนผึ้ง   เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรี และตัวแทนชาวบ้านในหมู่บ้านพุหิน หมู่  1 ต.ตะนาวศรี กว่า 50 คน  ได้เข้าร่วมประชุมที่บริเวณหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ(กองกำลังสุรสีห์)  ต.ตะนาวศรี  อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในกรณีที่ชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนมาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.55 ที่ผ่านมาว่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในบริเวณใกล้อ่างเก็บน้ำบ้านพุหิน ถูกนายทุนเข้าไปแผ้วถาง ครอบครองและทำการออกเอสารสิทธิ์ (นส.3) แล้ว 
           
ซึ่งจากการประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีชาวบ้านมาให้ข้อมูลนั้นพบว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวมีมากกว่า 4,000ไร่ เดิมเคยเป็นป่า และต่อมามีนายทุนเข้าไปจับจองโดยอ้างว่าเป็นที่มรดกตกทอดกัน พร้อมทั้งได้นำเอกสารสิทธิ์ (นส.3 ) มาแสดง จำนวนทั้งหมด 2 แปลง  ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน พบว่าเอกสารทั้ง 2 ฉบับ มีความคลาดเคลื่อนกับความเป็นจริงทั้งทางด้านทิศ  และพื้นที่ใกล้เคียงรอบๆบริเวณที่ดิน  อีกทั้งพบว่าพื้นที่นั้นอยู่คนละแปลงกัน ทั้งที่น่าจะเป็นผืนเดียวกัน  และยังพบว่ามีการนำหลักหมุดของสำนักงานป่าไม้ไปปักไว้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้ชาวบ้านเกรงว่าการออกเอกสารสิทธิ์ของนายทุนในที่ดินผืนนี้จะไม่ชอบมาพากล  และไม่ต้องการให้ผืนป่าที่อยู่คู่กับชาวบ้านมาหลายชั่วอายุคนนั้นถูกนายทุนนำไปหาผลประโยชน์  จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและยึดพื้นที่ป่าคืนมา   

ด้านนายสุชาติ บัวบาง  หัวหน้าชุดปราบปรามเคลื่อนที่เร็ว สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ( ราชบุรี )  กล่าวว่าในเบื้องต้นจะได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนที่เข้ามาทำการบุกรุก  โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่ามีการขอออกเอกสารสิทธิ์ ( นส.3 ) ในพื้นที่ดังกล่าวเพียง 57 ไร่  แต่ได้มีการแผ้วถางเกินกว่าที่ขออนุญาตในออกเอกสารสิทธิ์ไปจำนวนมาก และจะได้ทำการขยายผลไปยังพื้นที่แปลงอื่นที่ทำเรื่องยื่นขออนุญาตออกเอกสารสิทธิ์ด้วย หากตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่เกินจากที่ได้รับอนุญาต ก็จะทำแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้ใครเข้ามาดำเนินการแบบนี้อีก และจะทำการยึดพื้นที่คืนทั้งหมดเพื่อทำการปลูกป่าให้กับชาวบ้านเพื่อจะได้ช่วยกันรักษาป่าไม้ให้ยั่งยืนต่อไป



*******************************************
ภาพ/  สุชาติ  รอดบุญพา
ข่าว/  กาญจนา  สิมมา
10/08/55

ไม่มีความคิดเห็น: