วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทหารช่างรวบนายหน้าค้าที่ดินใน อ.สวนผึ้ง ขณะกำลังทำการถางป่าปลูกมันสำปะหลัง








ทหารช่างรวบนายหน้าค้าที่ดินใน อ.สวนผึ้ง ขณะกำลังทำการถางป่าปลูกมันสำปะหลัง
            
เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 28 มิ.ย. 55 ที่ผ่านมา ร.อ.มาโนช  พัดชา   หัวหน้าชุดลาดตระเวน กรมทหารช่างที่ 11 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบ้านห้วยหนึ่ง  หมู่ 2  ต.สวนผึ้ง  อ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี  หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกแผ้วถางผืนป่าในพื้นที่ราชพัสดุ จึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นเดิมเป็นป่ามีพื้นที่ลาดชันสลับกับพื้นราบ แต่ขณะนี้กลับถูกกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกถางป่าจนทำให้กลายเป็นพื้นที่โล่งเตียน และมีการปลูกมันสำปะหลังรวมกว่า 200 ไร่  และเจ้าหน้าที่ได้พบกับผู้ที่เข้ามาทำการบุกรุกแผ้วถางจำนวน 3 คน พร้อมกับรถไถและอุปกรณ์ในการปลูกมันสำปะหลัง  จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้สอบสวนและยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไว้ด้วย
      
จากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้นทราบว่าผู้ที่เข้ามาบุกรุกนั้นคือนางดาวรุ่ง  ปวงคำมี  อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่  59 หมู่ 2  ต.สวนผึ้ง  อ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี  นายสุชาติ  ยอดแก้ว  อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 5  ต.น้ำพุ  อ.เมือง  จ.ราชบุรี  และนายดา  เต้  อายุ 26 ปี ชาวกระเหรี่ยง 

โดยนางดาวรุ่งนั้นก็ยอมรับว่าตนเองนั้นเป็นนายหน้าขายที่ดินให้กับนายทุนที่จะเข้ามาทำธุรกิจใน อ.สวนผึ้ง ส่วนที่ดินในบริเวณที่ถูกจับกุมนั้นเป็นของเสี่ยเป็ด ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ทที่มีชื่อแห่งหนึ่งใน อ.สวนผึ้ง  โดยเสี่ยเป็ดนั้นได้ทำการปลูกมันสำปะหลังไว้นานแล้ว ตนเห็นว่ายังไม่มีการมาขุด  จึงได้ขอมาขุดเอง และจะทำการปลูกให้ใหม่  ก็มาถูกจับเสียก่อน 

ซึ่งตนเองนั้นไม่รู้ว่าเดิมนั้นพื้นที่เคยเป็นป่ามาก่อนและไม่ทราบว่าพื้นที่นั้นอยู่นอกแผนที่กายภาพซึ่งไม่สามารถให้เช่าได้เพราะเป็นป่าและมีความลาดชันสูง  เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งสามคนพร้อมกับยึดรถไถและรถปิกอัพรวมทั้งอุปกรณ์ในการปลูกมันสำปะหลังเพื่อส่งให้ พ.ต.ท.ชุมพล  สานพคุณ  พนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันยึดถือ ครอบครองที่ดิน ตัด โค่น ก่อสร้างแผ้วถางป่า ทำประโยชน์ในที่ดินเขตป่า   ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484  ต่อไป




******************************************
ภาพ/  สุชาติ  รอดบุญพา
ข่าว/  กาญจนา  สิมมา
29/06/55

ไม่มีความคิดเห็น: