ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเยี่ยมชมสาหร่ายลดโลกร้อนที่โรงไฟฟ้าราชบุรี
เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการวิจัยผลิตสาหร่ายสไปลูรีน่า ที่บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ต.พิกุลทอง อ.เมือง จังหวัดราชบุรี โดยมีนายณรงค์ ครองชนม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายสุรพล ชามาตย์ หัวหน้าอุตสาหกรรมจังหวัด นายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย พร้อมนายธีระศักดิ์ ประกายบุญทวี รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จํากัด ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมการผลิตเพาะเลี้ยงสาหร่าย
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการเยี่ยมชมการวิจัยผลิตสาหร่ายสไปลูรีน่า ในครั้งนี้ว่า เป็นโครงการที่น่าสนใจมาก เนื่องจากเป็นการนำคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการผลิตนำไปใช้ในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายสไปลูรีน่า ซึ่งจะขยายในเชิงพาณิชย์ต่อไป เบื้องต้นถือว่างานวิจัยชิ้นนี้สามารถลดโลกร้อนด้วยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการผลิตได้ ซึ่งยังคงอยู่ในขั้นวิจัยอยู่ และสำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ถือเป็นเรื่องที่สังคมไทยควรให้การสนใจและยอมรับถึงแม้จะต้องลงทุน และอาจจะคุ้มทุนในภายหน้าต่อไปซึ่งขณะนี้โลกเราทั้งหมดกำลังเน้นเรื่องการลดคาร์บอนไดออกไซด์
การเพาะเลี้ยสาหร่ายสไปรูลิน่าพบว่า 1 ไร่ จะช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 9.59 ตัน/ไร่/ปี หรือหากเปรียบเทียบกับการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ขนาดเดียวกัน สาหร่ายสไปรูลิน่าสามารถสูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าต้นไม้ถึง 9 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากการวิจัยโดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สำหรับกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า จะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหลือทิ้งออกมาจำนวนหนึ่ง ก๊าซที่เหลือจากกระบวนการผลิตดังกล่าว โรงไฟฟ้าจะถูกป้อนเข้าสู่สถานีปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และจ่ายไปยังท่อส่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่ฟาร์มเพาะสาหร่าย โดยลักษณะของฟาร์มจะเป็นบริเวณกว้างเปิดโล่งในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ โดยมีบ่อทดลองที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับสาหร่ายและสอดคล้องกับสถานที่จริงที่โรงไฟฟ้า
สำหรับบ่อเพาะหัวเชื้อจะมีจำนวน 2 บ่อ ในแต่และบ่อจะมีความกว้าง 4 เมตร ยาว 30 เมตร มีหลังคาบังแดดและสารที่เป็นอันตรายต่อสาหร่ายที่มากับลม เช่น โปรโตซัวจากฟาร์มหมูใกล้โรงไฟฟ้า เมื่อท่อส่งก๊าซจากสถานีปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาถึงฟาร์มเพาะสาหร่าย ก็จะแยกเป็นท่อย่อยขนาดเล็กจ่ายก๊าซลงสู่บ่อ
โดยลักษณะของสาหร่ายที่เพาะได้จากฟาร์มทดลองจะมีขนาดเล็กมาก แต่ละเซลล์มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น สามารถนำมาอบแห้งเป็นอาหารสัตว์หรืออาหารของมนุษย์ โดยสาหร่ายในพื้นที่ 1 ไร่ จะเพาะเลี้ยงได้ 4 ตันต่อปี สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 9.59 ตันต่อไร่ต่อปี ปัจจุบันโครงการกำลังศึกษาหาปริมาณความเข้มข้นแสงที่ดีที่สุดต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายเพื่อให้สามารถใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าได้มากที่สุด
***********************************
ภาพ/ สุชาติ รอดบุญพา
ข่าว/ กาญจนา สิมมา
11/05/55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น