วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

เก้งหม้อที่ถูกพรานป่ายิงอาการดีขึ้นปลอดภัยทั้งแม่และลูก






เก้งหม้อที่ถูกพรานป่ายิงอาการดีขึ้นปลอดภัยทั้งแม่และลูก  
 

เมื่อเวลา 11.30  น.  ของวันที่ 13 ม.ค. 56  ที่ผ่านมา นายประทีป  เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีจังหวัดราชบุรี นายธนิต นุ่นลอย สายตรวจป้องกันปราบปรามสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3  นายสาธิต  ปิ่นกุล  หัวหน้าสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง  พร้อมด้วยสัตวแพทย์หญิงอภิรุณ เรืองศรีมั่น และเจ้าหน้าที่สัตวบาลของสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง ได้นำเก้งหม้อวัย 5 ปี ท้องแก่ ที่ถูกพรานยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณสะโพกซ้ายได้บาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณช่องทางห้วยคอกหมูหมู่ที่ 4 ตําบลตะนาวศรี อําเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีกลับมาพักฟื้นร่างกายที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง อําเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี หลังถูกส่งตัวไปผ่าตัดรักษาด่วนที่โรงพยาบาลสัตว์หนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เมื่อวานนี้ ล่าสุดอาการของเก้งหม้อปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้วทั้งแม่และลูกในท้อง
              
นายธนิต  นุ่นลอย  สายตรวจป้องกันปราบปรามสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3   เปิดเผยว่า แพทย์ได้ใช้แท่งแก้วสอดเข้าไปตรวจสอบบาดแผลพบว่าบาดแผลเป็นมุมเฉียงลงจากมุมสูงมาประมาณ 45 องศา ลึกประมาณ 7 เซนติเมตร ไม่พบหัวกระสุน จากการสันนิษฐานของแพทย์คาดว่าจะเป็นหัวกระสุนที่มีรูเมื่อกระทบกระดูกก็จะแตกกระจาย แต่พบกระดูกแตก 1 ชิ้นที่บริเวณสะโพก จึงได้ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว   จากการเอ๊กซเรย์ 2 ครั้งไม่พบเลือดตกในบาดแผลไม่ได้ทะลุถึงช่องท้อง  อัลตราซาวด์ดูพบว่าลูกเก้งยังดิ้นได้อยู่มีขนาดหัวโตประมาณ 4.5 เซนติเมตรยังมีชีวิตอยู่ หลังจากรักษาที่โรงพยาบาลจนปลอดภัยแล้วได้นำกลับมาพักฟื้นต่อแต่ต้องจำกัดพื้นที่เนื่องจากบาดแผลอาจจะเกิดอักเสบได้หากอยู่ในพื้นที่กว้าง 

โดยแพทย์ยังต้องให้ยาด้วยวิธีการเป่าลักษณะเหมือนเข็มที่ใช้ยิงยาสลบ เมื่อเป่าไปโดนตัวน้ำยาจะเดินโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องจับยึดตัวลดการต่อต้านจากสัตว์ เป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งปกติเก้งหม้อเป็นสัตว์ไม่เชื่อง จากการนำมาพักฟื้นสังเกตเห็นบริเวณปลายจมูกเริ่มมีเหงื่อหยดแสดงให้เห็นว่าอาการเริ่มดีขึ้นแล้ว ดูจากสภาพขณะนี้คงจะมีอาการปวดบาดแผลอยู่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งยังมีความหวังที่เก้งหม้อแม่ลูกจะมีโอกาสรอดชีวิต ส่วนเรื่องของการถูกล่านั้นเจ้าหน้าที่ดูจากวิถีกระสุน  ลักษณะพรานนั่งห้างส่องสัตว์ยิงจากที่สูงลงที่ตํ่าระยะ 45 องศา และยังในระยะที่ไกล ทําให้กระสุนปืนไม่ถูกที่สําคัญ จนทําให้เก้งวิ่งหนีสุดชีวิตและรอดตัวมาได้ 
               
นายสาธิต ปิ่นกุล หัวหน้าสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง  กล่าวว่า ตอนนี้ได้จำกัดพื้นที่ให้เก้งหม้อท้องแก่อยู่ในกล่องเคลื่อนย้ายสัตว์กีบ  เพื่อป้องกันไม่ให้ขยับร่างกายมากนักเนื่องจากมีการตั้งครรภ์ หากอยู่ในที่กว้างอาจจะกระโดดหนีตามสัญชาตญาณ จะทำให้เกิดแผลอักเสบจึงจำเป็นต้องให้มีพื้นที่น้อยลง เมื่อมีอาการดีขึ้นจึงจะเคลื่อนย้ายไปอยู่ในกรงที่กว้างและมีสุขภาพแข็งแรงคงต้องส่งคืนถิ่นเดิมในป่าต่อไป



*************************************
ภาพ/  สุชาติ  รอดบุญพา
ข่าว/  กาญจนา  สิมมา
17/01/56

ไม่มีความคิดเห็น: