จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ช่วยชีวิตเก้งหม้อหลังถูกพรานยิงบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 12 ม.ค.56 นายประทีป เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี นายธนิต นุ่นลอย สายตรวจป้องกันปราบปรามสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ เร่งนำเก้งหม้อเพศเมียอายุประมาณ 5ปี ซึ่งกำลังตั้งท้องแก่ ส่งตัวมารักษาที่สถานวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี หลังถูกกลุ่มพรานใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณสะโพกซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยทางเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่สัตวบาลสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้างได้ช่วยกันนำเก้งหม้อมาทำความสะอาดบาดแผล
สัตวแพทย์หญิงอภิรุณ เรืองศรีมั่น เปิดเผยว่า เก้งหม้อมีอาการน่าเป็นห่วงเนื่องจากเสียเลือดมาก ความดันต่ำจึงได้ฉีดยาซึม พร้อมให้น้ำเกลือ จากการดูบาดแผลยังไม่สามารถผ่านำลูกกระสุนปืนออกมาจากบริเวณสะโพกได้ จึงต้องประสานไปยังมูลนิธิสว่างราชบุรี ช่วยนําเก้งหม้อส่งตัวไปผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลสัตว์หนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีเพื่อเร่งช่วยชีวิตโดยเร็ว
ทั้งนี้เก้งหม้อเพศเมียได้กลุ่มพรานยิง เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาตรงบริเวณแยกห้วยคอกหมู หมู่ที่ 4 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง ในเขตพื้นที่ราชพัสดุ โครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และได้วิ่งหลบหนีลงมาจากในป่าจนชาวบ้านในพื้นที่พบเห็น จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาเร่งช่วยเหลือนำตัวไปรักษาเพื่อช่วยชีวิต
ด้านนายประทีป เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี เปิดเผยว่าช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เก้งถูกล่าในเขตป่าเทือกเขาตะนาวศรีเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาถูกยิงตายไปแล้ว 2 ตัว และจับผู้ต้องหาได้2คน และมีกวางม้าถูกยิงตายที่บริเวณทางขึ้นเขากระโจมไปอีก 1ตัว และมาในครั้งนี้เก้งหม้อก็ถูกกลุ่มพรานล่า และยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่นํ้าภาชีได้เข้าแจ้งความไว้กับ สภ.สวนผึ้งแล้ว
สำหรับเก้งหม้อหรือเก้งดำ ซึ่งเป็น 1ใน 15 สัตว์ป่าสงวน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในกลุ่มของสัตว์เคี้ยวเอื้อง มีกระเพาะอาหาร 4ตอน ที่พัฒนาสำหรับการย่อยอาหารจำพวกพืชที่มีกากและเส้นใยที่ย่อยยาก ซึ่งจะพบมากในแถบเทือกเขาตะนาวศรี ลงไปจนถึงป่าฮาลา บาลา จ.นราธิวาส ซึ่งจะตกลูกครั้งละ 1 ตัว หลังจากที่ตั้งท้องประมาณ 6 เดือน โดยจะหากินในเวลากลางวัน จึงทำให้ถูกล่าได้มากกว่าสัตว์ชนิดอื่น
*************************************
ภาพ/ สุชาติ รอดบุญพา
ข่าว/ กาญจนา สิมมา
12/01/56
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น