วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อธิบดีกรมราชทัณฑ์เยี่ยมคุกเขาบินหลังนำนักโทษคดียาเสพติดรายสำคัญมาอยู่









ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ให้ชมต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 081-434-8777 , 088-640-8035


อธิบดีกรมราชทัณฑ์เยี่ยมคุกเขาบินหลังนำนักโทษคดียาเสพติดรายสำคัญมาอยู่



หลังจากที่มีการประชุมคัดเลือกผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญที่ยังมีการเคลื่อนไหวในการติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับบุคคลภายนอกจากทั้งหมด 8 เรือนจำ ซึ่งประกอบด้วย เรือนจำคลองเปรม บางขวาง บำบัดกลาง เรือนจำคลองไผ่ จ.นครราชสีมา เรือนจำพิษณุโลก เรือนจำระยองและเรือนจำกลางราชบุรี ได้รายชื่อนักโทษที่เป็นผู้ค้ารายใหญ่ทั้งหมด 300คน ที่จะต้องถูกส่งมาอยู่ที่เรือนจำกลางเขาบินจ.ราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่ ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี เนื่องจากเรือนจำกลางเขาบินจ.ราชบุรี นั้นเป็นเรือนจำเดียวในประเทศไทยที่มีระบบการตัดสัณญาณโทรศัพท์ที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถตัดวงจรการสั่งซื้อขายยาเสพติดภายในเรือนจำได้ และมีการติดตั้งกล้องวงปิดไว้โดยรอบมากกว่า 300 ตัวในการดูความเคลื่อนไหวในทุกจุดของเรือนจำ

ทำให้ในวันที่ 7 ก.พ.55 เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เดินทางมาที่เรือนจำกลางเขาบินเพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหา โดยมีพล.ต.ต.นิพนธ์ ภู่พันธ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี นายธนวีร์ ประวัติ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี และนายสุรชัย พุ่มแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จ.ราชบุรี คอยให้การต้อนรับ

โดยนายธนวีร์ ประวัติ ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จ.ราชบุรี ได้บรรยายถึงสภาพของเรือนจำกลางเขาบิน ว่าเป็นเรือนจำที่ควบคุมผู้ต้องขังที่มีอัตราโทษตั้งแต่ 30 ปี ขึ้นไป มีเนื้อที่รวมทั้งหมด 300 ไร่ สภาพโดยรอบเป็นป่าและภูเขา มีผู้ต้องขัง 2,502 คน คดียาเสพติด 1,354 คน คดีทั่วไป 1,148 คน มีผู้ต้องขังที่มีโทษตลอดชีวิต 338 คน ประหาร 17 คน และผู้ต้องขังต่างชาติ 314 คน มีทั้งหมด 9 แดน โดยแดน 4 และแดน 9 นั้นจะเป็นแดนที่ควบคุมพิเศษ ควบคุมผู้ต้องขังรายสำคัญรวมทั้งผู้ต้องขังที่มีโทษประหารชีวิต และขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างแดน6ซึ่งเป็นแดนพิเศษหรือที่เรียกกันว่า ซุปเปอร์แมกซ์ เพื่อใช้สำหรับผู้ต้องขังที่เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่และผู้ต้องขังรายสำคัญ ใช้งบประมาณกว่า 286,867,000 ล้านบาท ในการก่อสร้าง ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 20 %

ในส่วนของปัญหาของเรือนจำกลางเขาบินนั้น นายธนวีร์บอกว่า มีอัตรากำลังไม่เพียงพอในการปฎิบัติหน้าที่ ขณะนี้มีแค่เพียง 116 คน ซึ่งต้องทำงานทั้งกลางวันโดยไม่มีวันหยุด และเมื่อมีการนำนักโทษในคดีสำคัญมาอยู่ก็ยิ่งต้องเพิ่มการดูแล ซึ่งทำให้มีวันหยุดน้อยกว่าหน่วยงานอื่น อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความจำเจซ้ำซาก เหนื่อยล้า ทำให้ขาดความรับผิดชอบและเกิดความโลภ

นอกจากนี้ยังขาดอุปกรณ์ในการตรวจหาสารเสพติดเพราะในปัจจุบันนั้นวิธีการส่งสิ่งของต้องห้ามโดยเฉพาะยาเสพติดนั้นมีวิธีการที่ยากต่อการตรวจพบ โดยล่าสุดพบว่ามีการนำข้าวสวยและเส้นขนมจีนไปชุบกับยาบ้าและยาไอซ์ เมื่อส่งถึงผู้ต้องขังก็จะนำไปแช่น้ำแล้วนำน้ำนั้นไปทำให้ตกผลึกหรือนำไปลนไฟ แล้วก็จะนำมาเสพกัน จึงเป็นเรื่องยากที่ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจพบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือโดยเฉพาะเรื่องของเส้นทางการโอนเงินซื้อขายยาเสพติด

ด้านพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็รับปากว่าจะดำเนินการจัดหาเจ้าหน้าที่มาเพิ่ม ซึ่งขณะนี้มีอยู่แล้วและจะจัดส่งมาช่วยโดยให้ทางเจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางเขาบินเป็นพี่เลี้ยงให้ ซึ่งน่าจะต้องมีมากกว่า 150คน นอกจากนี้จะดูแลเจ้าหน้าที่รวมทั้งจัดหาสวัสดิการมาให้และจะดูแลไปถึงครอบครัวของเจ้าหน้าที่ด้วย โดยในเบื้องต้นจะนำงบประมาณที่ได้จากเงินสนับสนุนดอกเบี้ยจากกรมบังคดีจำนวน 120 ล้านบาท มาช่วยทำการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านพักเจ้าหน้าที่ให้ก่อน แต่ในส่วนของผู้ต้องขังที่ได้รับการคัดเลือกแล้วนั้นจะทยอยจัดส่งมาอยู่ที่เรือนจำเขาบิน โดยทุกเรือนจำทั่วประเทศจะต้องจัดส่งรายชื่อผู้ต้องขังที่เป็นนักค้าและยังเคลื่อนไหวอยู่ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ก.พ.นี้ และจะดำเนินการปรับระบบเรือนจำอีก 3 แห่ง ได้แก่ เรือนจำคลองไผ่ พิษณุโลกและ เรือนจำระยอง ให้มีประสิทธิภาพเหมือนเรือนจำเขาบินด้วย

จากนั้นได้เข้าตรวจเยี่ยมในเรือนนอนของผู้ต้องขังในแดนความมั่นคงสูงเพื่อดูความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง โดยเฉพาะในบริเวณนี้จะมีการขว้างปาสิ่งของต้องห้ามเข้า หรือใช้ลูกดอกยิงส่งมาในเรือนจำในบริเวณแดนนี้ด้วย




*****************************************
ภาพ/ สุชาติ รอดบุญพา
ข่าว/ กาญจนา สิมมา
08/02/55

ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ให้ชมต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 081-434-8777 , 088-640-8035


ไม่มีความคิดเห็น: