มือปืนโหดจ่อยิง รปภ.โครงการชลประทานดับคาป้อมยาม
เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 19 เม.ย. 55 พ.ต.ท.ประดับ เชื้อโพหัก สารวัตรเวรสภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณป้อมยาม สำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาราชบุรี ฝั่งซ้าย ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 8 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ภาสกรณ์ เกตุอำนวยกุล ผกก.สภ.โพธาราม พ.ต.ท.โชติช่วง ภาณุทัต รองผกก.สภ.โพธาราม และ พ.ต.ท.อำพร รักผะกา สวป.สภ.โพธาราม ได้รับรับทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างราชบุรี
ในที่เกิดเหตุบริเวณประตูป้อมยาม เจ้าหน้าที่พบศพนายเล็ก พูลสวัสดิ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/1 ถ.รถไฟ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี สภาพศพสวมชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสีเขียว นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ ที่บริเวณหัวคิ้วซ้ายและหางตาขวาถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. และใกล้กันเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 หัว จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายปิ่น ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าเวรอยู่กับผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับผู้ตายได้นั่งดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่ในป้อมยาม แต่ผู้ตายบ่นว่าร้อนและเปิดประตูออกมานั่งรับลมหน้าป้อมยาม จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด จึงได้รีบเปิดประตูออกมาดูก็พบคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อกทั้งคู่ กำลังซ้อนท้ายรถจักรยานออกไป และเห็นว่าผู้ตายนั้นล้มคว่ำอยู่ จึงได้ตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ชลประทานที่เข้าเวรมาดุและช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ด้วย
ในที่เกิดเหตุบริเวณประตูป้อมยาม เจ้าหน้าที่พบศพนายเล็ก พูลสวัสดิ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/1 ถ.รถไฟ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี สภาพศพสวมชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสีเขียว นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ ที่บริเวณหัวคิ้วซ้ายและหางตาขวาถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. และใกล้กันเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 หัว จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายปิ่น ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าเวรอยู่กับผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับผู้ตายได้นั่งดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่ในป้อมยาม แต่ผู้ตายบ่นว่าร้อนและเปิดประตูออกมานั่งรับลมหน้าป้อมยาม จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด จึงได้รีบเปิดประตูออกมาดูก็พบคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อกทั้งคู่ กำลังซ้อนท้ายรถจักรยานออกไป และเห็นว่าผู้ตายนั้นล้มคว่ำอยู่ จึงได้ตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ชลประทานที่เข้าเวรมาดุและช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ด้วย
ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบเนื่องจากผู้ตายกับตนนั้นไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัว และเพิ่งจะมาจับคู่เข้าเวรดึกวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายนั้นอาจจะมายิงผิดตัว เนื่องจากนายปิ่นซึ่งเป็นเพื่อน รปภ.ที่เข้าเวรคู่กันนั้นมีหนี้สินและถูกตามทวงหนี้อยู่ แต่ผู้ตายซึ่งเดินออกมานั่งรับลมคนเดียวและแต่งชุดเหมือนกันประกอบกับด้านของประตูทางเข้าโครงการชลประทานฯนั้นไฟดับ จึงอาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดและยิงผิดตัวดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำนายปิ่นเพื่อน รปภ.ของผู้ตายเพื่อหาข้อมูลคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
**************************************
ภาพ/ กาญจนา สิมมา
ข่าว/ กาญจนา สิมมา
27/04/55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น