วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

สถาบันสารสนเทศ ทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์กรมหาชน) หรือ สสนก. ร่วมกับทหารช่างและชาวบ้านสร้างฝายชลอน้ำช่วยแก้ภัยแล้ง







สถาบันสารสนเทศ ทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์กรมหาชน) หรือ สสนก. ร่วมกับทหารช่างและชาวบ้านสร้างฝายชลอน้ำช่วยแก้ภัยแล้ง



เมื่อเวลา 14.00 ของวันที่ 27 ก.พ.57 นดร.รอยล จิตรดอน  ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร( องค์กรมหาชน) หรือ สสนก. ได้พาเจ้าหน้าที่ไปร่วมกับกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี และชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 11 บ้านเนิน  และหมู่16  บ้านหนองวัวดำ  ต.ทุ่งหลวง  อ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี ทำการสร้างฝายชะลอน้ำ ที่บริเวณเนินเขาหมอนทอง  หมู่ 16  บ้านหนองวัวดำ  เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวนั้นไม่ค่อยมีฝนตก แต่ประชาชนในพื้นที่นั้นมีอาชีพปลูกผักและทำการเกษตรอื่นๆที่ต้องใช้น้ำ  ทำให้ทุกบ้านต้องขุดบ่อน้ำไว้ใช้  แต่เมื่อไม่มีฝนตกน้ำก็ไม่มี  ชาวบ้านจึงได้ถวายฎีกาในการขอฝนเทียมมาช่วย  

และทางสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร( องค์กรมหาชน) หรือ สสนก. ก็ได้เข้ามาทำการตรวจสอบแล้วพบว่า แม้ว่าจะมีการขุดบ่อเก็บกักน้ำไว้ หรือการขุดลอกลำห้วย แม้กระทั่งการขุดเจาะบ่อบาดาล ก็ไม่ได้ช่วยให้มีน้ำใช้ได้ตลอดหน้าแล้ง เมื่อมีฝนตกน้ำก็จะหลากไปอย่างรวดเร็วเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย  และน้ำก็จะไหลไปโดยไม่เกิดประโยชน์  จึงได้ให้ชาวบ้านช่วยกันทำฝายชะลอน้ำ  ตามโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  โดยนำเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมกับกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี   และองค์การบริหารจังหวัดราชบุรี  เข้ามาสร้างฝายชะลอน้ำ 

โดยให้ชาวบ้านเข้ามีส่วนร่วมในการสร้างและร่วมกันบริหารจัดการน้ำ  ซึ่งการสร้างฝายชะลอน้ำในพื้นที่แห่งนี้ทั้งหมด 4 ตัว  เนื่องจากพื้นที่ที่สร้างฝายชลอน้ำแห่งนี้นั้นเดิมเป็นป่าเสื่อมโทรม ไม่มีต้นใหญ่อุ้มน้ำทำให้น้ำนั้นหลากลงไปอย่างรวดเร็ว  แต่เมื่อสร้างฝายชลอน้ำก็จะสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ โดยใช้วัสดุในพื้นที่  ก็จะทำให้มีน้ำขัง ป่าก็จะกลับมาชุ่มชื้นและกลับมาเป็นป่าดิบชื้นเหมือนเดิม  เมื่อมีป่าพื้นดินก็ไม่แห้งแล้ง ฝนก็จะตกต้องตามฤดูกาล  ประชาชนก็จะสามารถมีน้ำใช้ได้ตลอดปี  ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภัยแล้งในระยะยาว  ส่วนเรื่องปัญหาน้ำเค็มที่จะเข้ามากระทบนั้นพื้นที่บริเวณนี้ไม่เกี่ยว เพราะเป็นพื้นที่ภูเขาและน้ำก็จะมาจากน้ำฝนเท่านั้น  ซึ่งใน จ.ราชบุรี นั้นมีน้ำจืดมากพอที่จะผลักดันน้ำเค็มในช่วงที่น้ำทะเลหนุนได้  และในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ติดกับ จ.ราชบุรี ก็มีป่าชายเลนอยู่มาก ที่จะช่วยกั้นไม่ให้น้ำเค็มทะลักเข้ามาได้   



***************************************
ภาพ/  สุชาติ  รอดบุญพา
ข่าว/  กาญจนา  สิมมา
28/02/57

ไม่มีความคิดเห็น: